สุราษฎร์ธานี แหล่งท่องเที่ยวงาม ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี คำขวัญประจำจังหวัดคือ “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบน มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 64 ของประเทศ และมีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ เมืองสุราษฎร์ธานี ถือเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
ประวัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในพุทธศตวรรษที่ 13 มีหลักฐานปรากฏว่าเมืองแห่งนี้ได้รวมเข้ากันกับอาณาจักรศรีวิชัย และเป็นศูนย์กลางของเมืองศรีวิชัย แต่เมื่ออาณาจักรเสื่อมลง จึงถูกแยกออกเป็น 3 เมืองคือ เมืองไชยา เมืองท่าทอง และเมืองคีรัฐ ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช
ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งอู่เรื่อพระที่นั่งกับเรือรบ เพื่อนำมาใช้ในราชการที่อ่าวต่อมา ถัดมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ย้ายเมืองท่าทองมาตั้งที่บ้านดอน (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี) และยกฐานะให้เป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ พระราชทานนามเมืองแห่งนี้ว่าเมืองกาญจนดิษฐ์ และเมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบมณฑล ก็ได้รวมเมือง 3 เมืองได้แก่ เมืองไชยา เมืองกาญจนดิษฐ์กับเมืองคีรีรัฐนิคม มาเป็นเมืองเดียวกันเรียกว่าเมืองไชยา ภาคใต้สังกัดมณฑลชุมพร และเมื่อเมืองมีการขยายใหญ่โตขึ้น จึงได้มีการปรับเปลี่ยนการปกครองและขยายเมืองออกไป ได้มีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาที่อ่าวบ้านดอน มีชื่อเมืองใหม่ว่าอำเภอไชยา และต่อมาใน พ.ศ. 2458 รัชกาลที่ 6 โปรดให้เปลี่ยนชื่อเมืองไชยา มาเป็นเมือง สุราษฎร์ธานี มีความหมายว่าเมืองแห่งคนดี และเมืองเก่าให้ชื่อว่าอำเภอไชยา
ภูมิประเทศกับภูมิอากาศ
ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ประมาณ 49% ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นภูเขา มีเทือกเขาสูงทอดยาวตามแนวเหนือใต้ของพื้นที่จังหวัด และด้วยลักษณะภูมิประเทศ ก่อให้เกิดลุ่มน้ำน้อยใหญ่ มีทั้งหมด 14 ลุ่มน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำตาปี ท่าฉาง ไชยา ท่าทอง ท่ากระจาย พุมดวง เป็นต้น ทางด้านตะวันออกเป็นฝั่งทะเลอ่าวไทย มีเกาะน้อยใหญ่ และมีประชากรอาศัยอยู่ ทางด้านตะวันตกมีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง กับแม่น้ำคีรีรัฐ และทำเลที่ตั้งรวมถึงภูมิประเทศ พื้นที่ของจังหวัด สุราษฎร์ธานี จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทย และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากมหาสมุทรอินเดีย จึงทำให้มีช่วงฤดูฝนที่ยาวนาน ตั้งแต่ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มกราคม
ประเพณีกับวัฒนธรรม
- วันสารทไทย หรือสารทเดือนสิบ เป็นวันที่ถือกันว่าท่านพญายมจะทำการปล่อยตัวผู้ล่วงลับไปแล้ว (เรียกว่า เปรต) มาจากนรก โดยจะเริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 10 ซึ่งในวันนี้บางคนก็จะทำการประกอบพิธี หรือบางคนก็จะประกอบพิธีในวันแรม 13 ค่ำ 14 ค่ำ และ 15 ค่ำ โดยจะนำข้าวปลาอาหาร และขนมกระยาสารทไปทำบุญตักบาตรที่วัด เรียกว่าหมรับเล็ก เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วตามความเชื่อ และเป็นการต้อนรับบรรพบุรุษญาติมิตรที่ขึ้นมาจากนรก
- กีฬาชนควาย เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับกีฬาชนวัวของจังหวัดสงขลา โดยจะมีการจัดขึ้นที่เกาะสมุย พื้นที่ที่นิยมกีฬาชนควายอย่างมาก และจะจัดขึ้นในโอกาสที่มีงานมงคล หรือมีงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่หรือตรุษสงกรานต์
- งานเทศกาลกินหอยนางรมฟรี หอยนางรมเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งหอยนางรมของที่นี่จะมีรสชาติหวาน มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยจะมีการจัดงานเทศกาลที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ในช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคมของทุกปี
- งานวันเงาะโรงเรียน เงาะโรงเรียน หรือเงาะพันธุ์โรงเรียน เนื้อในหวาน กรอบ ล่อนไม่ติดเมล็ด เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของ สุราษฎร์ธานี ซึ่งจัดเป็นเงาะพันธุ์ที่ดี่ที่สุดทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งงานวันเงาะโรงเรียนจะจัดขึ้นในบริเวณสนามศรีสุราษฎร์ และริมเขื่อนแม่น้ำตาปีในตัวเมือง ช่วงประมาณวันที่ 2 – 8 สิงหาคมของทุกปี
- งานประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งขันเรือยาว ประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่า และแข่งขันเรือยาวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นงานใหญ่งานหนึ่งของภาคใต้ จัดขึ้นบริเวณเขื่อนลำน้ำตาปี ตั้งแต่บริเวณจากศาลหลักเมืองจนถึงโรงแรมวังใต้ มีอีกชื่อหนึ่งว่างานเดือนสิบเอ็ด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับเทศกาลออกพรรษา มีกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การประกวดเรือพระ จะมีทั้งรถพนมพระกับเรือพนมพระ โดยอาจจะตกแต่งประดับประดาด้วยการแกะสลัก หรือฉลุไม้ ตกแต่งจำลอง เสมือนกับฉากที่พระพุทธเจ้ากลับมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยในงานพิธีจะใช้คนลาก ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ที่ได้ร่วมลากจูงรถหรือเรือพนมพระ จะได้รับอานิสงส์หลายประการ
การละเล่นพื้นบ้าน
- การละเล่นผู้ใหญ่ เช่น หนังตะลุง ลิเกป่า มโนห์รา คำตัด เพลงชักพระอำเภอเกาะพะงัน เพลงบอก และเพลงนา
- การละเล่นเด็ก เช่น หมากขุม ทอยหลุม เหยกเตย หมากโตน ลูกฉุด บอกโผละ กบกับ ลูกหวือ จุ้มจี้ จี้จิบ ทองสูง และชักลูกยาง
อาหารพื้นบ้าน
- ผัดไทยท่าฉาง และผัดไทยไชยา หรืออาจะเรียกรวมกันว่า ผัดไทย สุราษฎร์ธานี เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กผัดใส่น้ำกะทิพร้อมทั้งเครื่องแกง จึงเป็นผัดไทยที่มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย
- พระรามลงสรง มีลักษณะคล้ายคลึงกับราดหน้าผักบุ้ง เครื่องปรุงมี น้ำแกงข้น น้ำพริกเผา 1 ช้อน นำมาราดลงบนผักบุ้งลวกกับเนื้อแดงหั่นชิ้นเล็กลวกสุก แล้วนำมาราดบนเส้นหมี่หรือข้าวสวย
- สาหร่ายข้อ หรือสาหร่ายเขากวาง นิยมนำมายำกับกะปิเล็กน้อยใส่หอยแครงลวกสุกยำรวมกัน มีทานที่พะงันกันสมุย สาหร่ายไม่มีกลิ่นคาว
- หอยนางรมสุราษฎร์ธานี อาหารทะเลรสชาติขึ้นชื่อ มี 2 ชนิดคือ หอยตะโกรม เป็นหอยชนิดพันธุ์ใหญ่ และหอยเจาะ ชนิดพันธุ์เล็ก โดยจะพบมากในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี
1. เกาะสมุย
เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยความงดงามของธรรมชาติ หาดทรายขาวละเอียดทอดขนานไปกับทิวมะพร้าวริมชายหาด น้ำทะเลใส เกาะสมุยจึงได้รับการขนานนามว่า สวรรค์กลางอ่าวไทย เกาะสมุยมีชายหาดสวยงามที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง เช่น หาดตลิ่งงาม ขึ้นชื่อในเรื่องของพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะ, หาดเฉวง เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดบนเกาะ หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส และหาดละไม หาดใหญ่อันดับสองรองจากหาดเฉวง มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของความโค้งของอ่าวกับทิวมะพร้าวที่ปลูกเป็นแนว
- ที่ตั้ง : ตอนกลางของอ่าวไทยนอกชายฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
- การเดินทาง : โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 35 ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์จนถึงชุมพร ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอไชยา จนถึงสุราษฎร์ธานี จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีขับรถไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ถึงเกาะสมุย
- ไฮไลท์ : หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสกับธรรมชาติที่สวยงาม
2. เกาะพะงัน
เกาะพะงัน คือเกาะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกับชาวไทยรู้จักกันในชื่อของเกาะแห่งปาร์ตี้ เพราะเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ขนาดใหญ่ติดอันดับโลก “ฟูลมูนปาร์ตี้” เกาะพะงันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีชายหาดขาว น้ำทะเลใส ทัศนียภาพงดงาม เช่น หาดริ้นนอก ชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะพะงัน , อ่าวศรีธนู ชายหาดที่มีความสวยงามเป็นอันดับสามของเกาะพะงัน , หาดท้องศาลา ศูนย์กลางท่องเที่ยวกับธุรกิจต่าง ๆ มีอ่าวจอดเรือที่สวยงาม , อ่าวโฉลกหลำ เป็นแหล่งอาหารทะเลและสถานที่เล่นวินต์เซิร์ฟ-ไคต์เซิร์ฟ , วัดพุทธเจดิยาราม (วัดเขาน้อย) มีเจดีย์สีขาวสูงตระหง่าน อายุกว่าร้อยปี ซึ่งเป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “พ่อท่านหลบ ธัมมวโร” ฯลฯ
- ที่ตั้ง : เกาะกลางน้ำอ่าวไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
- การเดินทาง : เมื่อถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ต่อเรือไปยังเกาะพะงัน โดยมีเรือให้บริการ 3 แบบด้วยกันคือ เรือเฟอร์รี่ เรือด่วน และเรือนอน
- ไฮไลท์ : งานฟูลมูนปาร์ตี้ งานปาร์ตี้ติดอันดับโลก
3. อุทยานแห่งชาติเขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสกเป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ 2,296,879.5 ไร่ ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติเขาสก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา อุทยานแห่งชาติศรีพังงา และอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง อุดมไปด้วยพืชพรรณมากมายหลายชนิด เช่น บัวผุด ปาล์มเจ้าเมืองถลางหรือปาล์มหลังเขา ปาล์มพระราหู ฯลฯ และยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ได้แก่ เก้งหม้อ เลียงผา สมเสร็จ และแมวลายหินอ่อน นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติเขาสกยังมีทิวทัศน์และธรรมชาติที่แสนงดงาม โดยเฉพาะเทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จนได้รับฉายาว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย
- ที่ตั้ง : ตำบลคลองสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
- การเดินทาง : จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) ถึงกิโลเมตรที่ 109 มีแยกขวาไปอีก 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณที่ทำการอุทยานฯ
- ไฮไลท์ : ดอกบัวผุด ดอกไม้ขนาดใหญ่หาดูได้ยาก โดยจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคมของทุกปี
4. หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะ 42 เกาะ ได้แก่ เกาะไผ่ลวก เกาะหินดับ เกาะสามเส้า เกาะนายพุด เกาะพะลวย เกาะแม่เกาะ เกาะวัวตาหลับ ฯลฯ ซึ่งตามเกาะต่าง ๆ จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด บางเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง อาทิ เกาะหินดับ มีหาดทรายสวยงาม ทัศนียภาพรอบเกาะงดงามน่าชม , เกาะวัวตาหลับ หาดทรายขาวสะอาด บนยอดเขามีจุดชมทิวทัศน์ สามารถมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาว และเกาะสามเส้า แหล่งปะการังที่สวยงาม หาดทรายขาวสะอาด มีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกในในทะเล
- ที่ตั้ง : อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดฤดูกาลการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม – 31 ตุลาคม ของทุกปี และปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 23 ธันวาคมของทุกปี
- การเดินทาง : เดินทางโดยเรือนำเที่ยวจากท่าเรือบ่อผุดหรือจากท่าเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ไฮไลท์ : ชมทิวทัศน์ 360 องศา ที่จุดชมวิวบนยอดเขาของเกาะวัวตาหลับ
5. เกาะเต่า-เกาะนางยวน
เกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะคือ เกาะเต่ากับเกาะนาง ชายหาดมีความสวยงามทรายสะอาดบริสุทธิ์ สลับกับโขดหินรูปทรงแปลกตา หลาย ๆ คนจึงเรียกที่แห่งนี้ว่า เกาะสวาทหาดสวรรค์ ส่วนโลกใต้ทะเลได้รับการยกย่องให้เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ เพราะมีความงดงามอย่างมาก และปะการังมีความอุดมสมบูรณ์ เกาะเต่า-เกาะนางยวนมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น อ่าวจันทร์สม หาดขนาดไม่ใหญ่มาก ชายหาดมีทั้งที่เป็นโขดหินกับทรายละเอียด น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต , อ่าวแม่หาด เป็นเหมือนกับเมืองหลวงของเกาะเต่า เพราะแม่หาดเป็นท่าเรือ และแหล่งชุมชน ร้านค้า สถานที่ราชการกับรีสอร์ทที่พัก และอ่าวหินวง น้ำทะเลใสมาก บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน
- ที่ตั้ง : อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
- การเดินทาง : โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทาง ถนนพระราม 2 หรือ ธนบุรี ปากท่อ มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดเพชรบุรี มุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร-สุราษฎร์ธานี ต่อเรือที่ท่าเรือเร็วลมพระยาหรือท่าเรือซีทราน
- ไฮไลท์ : จุดดำน้ำ ติดอันดับ 1 ใน 10 จุดดำน้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย
6. น้ำตกวิภาวดี
น้ำตกวิภาวดี (ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดี รังสิต) หรือชื่อเดิม น้ำตกคลองพาย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า น้ำตกหม่อมเจ้า เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาแดน แล้วไหลมาตามลำน้ำคลองพาย น้ำตกมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดคือ น้ำตกชั้นที่ 2 มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 15-20 เมตร มีสายน้ำสีขาวกระโจนลงมาสู่แอ่งน้ำด้านล่าง บริเวณรอบน้ำตกคือผืนป่าที่มีความชุ่มฉ่ำ จึงเหมาะอย่างมากสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ
- ที่ตั้ง : บ้านเชี่ยวมะปราง หมู่ 2 ตำบลตะกุกใต้ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 16.00 น.
- การเดินทาง : น้ำตกวิภาวดีอยู่ห่างจากอำเภอเมืองฯ 38 กิโลเมตร อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 401 บริเวณกิโลเมตรที่ 60-61 ก่อนถึงทางแยกเลี้ยวเข้าอำเภอดอนสัก มีแยกทางขวามือปากทางเข้าน้ำตก ที่บ้านเชี่ยวมะปราง หมู่ 2 ตำบลตะกุกใต้ สภาพถนนเป็นดินรุงรังบางส่วนลาดยาง
- ไฮไลท์ : บรรยากาศธรรมชาติอันงดงาม และความสวยงามของน้ำตก
7. น้ำตกดาดฟ้า
น้ำตกดาดฟ้า เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีทั้งหมด 22 ชั้น ชั้นที่สูงที่สุดมีหน้าผาสูงชันประมาณ 80 เมตร บริเวณน้ำตกดาดฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นป่าดงดิบชื้นสภาพสมบูรณ์ มีต้นไม้สูงใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตามพื้นล่างก็มีเฟินกับหวายขึ้นอยู่หนาแน่น ในช่วงหน้าฝนน้ำตกจะมีน้ำมากไหลพรั่งพรูเต็มหน้าผา ดูงดงามราวกับไหลลงมาจากฟากฟ้า น้ำตกแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า น้ำตกดาดฟ้า
- ที่ตั้ง : ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30 – 16.00 น.
- การเดินทาง : โดยรถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4009 สายอำเภอบ้านนาสาร-สุราษฎร์ธานี ห่างจากตัวเมือง 33 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวเข้าถนน รพช. เข้าสู่น้ำตก ประมาณ 13 กิโลเมตร
- ไฮไลท์ : ความงามของน้ำตก ในช่วงหน้าฝน
8. เขื่อนเชี่ยวหลาน
เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา คือเขื่อนอเนกประสงค์ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมาพัฒนาแหล่งน้ำและพลังงานไฟฟ้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพอันงดงาม บรรยากาศเงียบสงบ น้ำใสสีเขียวมรกต รายล้อมด้วยภูเขาหินปูนยอดแหลม แนวหน้าผาสูงชัน กลางสายน้ำของเขื่อนเชี่ยวหลาน และโอบล้อมด้วยธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง และภายในบริเวณเขื่อนเชี่ยวหลาน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกหลายแห่ง เช่น หิน 3 เกลอ เป็นเสาหินหรือเกาะหินปูนกลางน้ำตั้งตระหง่านเรียงรายกลางท้องน้ำสีมรกต ดูแปลกตาแต่สวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย, ถ้ำน้ำทะลุหรือถ้ำน้ำหลุ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย รวมทั้งโขดหินที่เกิดขึ้นมาจากการกัดเซาะของสายน้ำจนมีรูปร่างที่แปลกตา, จุดชมวิวไกรสร ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสความงามของทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาได้รอบทิศทาง 360 องศา, น้ำตกธารสวรรค์ น้ำไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันพุ่งโค้งแบบรุ้งกินน้ำ เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงาม และตั้งน้ำ วังน้ำลึกที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา และเป็นสถานที่ลอยอังคารของท่านพุทธทาส ภิกขุ ฯลฯ
- ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัด สุราษฎร์ธานี
- วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 16.00 น.
- การเดินทาง : โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร ให้ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงอำเภอพุนพิน ตรงสี่แยกที่สามารถเข้าจังหวัด สุราษฎร์ธานีได้ ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด แต่ให้ตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงแยกท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนจะถึงตัวอำเภอบ้านตาขุน จะมีป้ายใหญ่ของเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อยู่ทางขวามือ
- ไฮไลท์ : ล่องเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทย ที่มีความงดงามที่ติดอันดับของโลก